แม้ตลาดอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android จะลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่อง แต่นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นหลายท่านก็ไม่ทอดทิ้ง และไว้ลายโดยการผลิตแอพที่มีบน Google Store เท่านั้น เรียกได้ว่ายอมจำกัดกลุ่มลูกค้ากันไปเลย แต่แล้วเหล่าผู้ซึ่งต้องการแอพพลิเคชั่นเพื่อตอบสนองการใช้งานของลูกค้าว่า ควรหานักพัฒนาเพื่อสร้างแอพพลิเคชั่นบนระบบใดก่อนดี หรือล็อคเพื่อระบบเดียวเลยดีไหม? สิ่งแรกที่คุณควรสังเกตคือ การใช้งานของกลุ่มลูกค้าว่าใช้งานอุปกรณ์ใดมากกว่ากัน แม้ในเมืองไทยอุปกรณ์ของบริษัท A. จากประเทศสหรัฐอเมริกาจะได้รับความนิยม มีเหล่าสาวกศรัทธาจำนวนมาก หากกลุ่มลูกค้าหลักของคุณเลือกใช้งานระบบปฏิบัติการ Android ล่ะ การเลือกพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อการทำงานบนอุปกรณ์ของบริษัท A. จะตรงกับกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ และมั่นใจได้แค่ไหนว่ามีคู่แข่งที่ดำเนินงานลักษณะเดียวกันน้อย แอพพลิเคชั่นบนระบบปฏิบัติการทั้ง 2 มีข้อดี – ข้อด้อยที่แตกต่างกัน ระบบปฏิบัติการ iOS: ข้อดี – ใช้งานข้าง ปลอดภัยจากสปายแวร์ / มัลแวร์ และมีฐานผู้ใช้บริการ ‘ทั่วโลก’ จำนวนมหาศาล ข้อเสียคือการสร้างค่อนข้างวุ่นวาย ทั้งอุปกรณ์และโปรแกรมภาษาที่เลือกใช้ถูกจำกัดเฉพาะ ระบบ ปฏิบัติการ Android: ข้อดี – สร้างแอพพลิเคชั่นได้ง่าย สามารถสร้างบนคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็ได้ ข้อเสียปัญหาของระบบปฏิบัติการเอง อาทิ ไม่สามารถปิดแอพที่คุณปิดเพียงหน้าต่างไป หรือไม่มีระบบป้องกันมัลแวร์บนระบบปฏิบัติการ ทำให้การใช้งานติดขัดได้ง่าย สุดท้ายแล้วเพื่อรักษากลุ่มลูกค้าทั้งหมด ก็ควรสร้างแอพพลิเคชั่นของ 2 ระบบปฏิบัติการ แม้ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้น แต่ชัวร์ในเรื่องกลุ่มเป้าหมายหลักและรอง ร่วมถึงได้กลุ่มใหม่เข้ามาคลุกคลีกับแอพพลิเคชั่นของคุณ คุณต้องมั่นใจด้วยว่าธุรกิจเดิมของคุณเป็นที่รู้จัก และต้องการแอพเพื่อเสริมภาพลักษณ์และการทำงานที่ดีขึ้น เพิ่มเติม: การสร้างแอพพลิเคชั่นที่เสริมบารมีธุรกิจหลัก ต้องออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย และมีกราฟิกที่สวยงาม ควรมองให้ทะลุถึงใจของลูกค้าว่า เขาต้องการแอพพลิเคชั่นที่สามารถทำอะไรได้บ้าง หรือมีลูกเล่นนอกเหนือจากเว็บหลักหรือไม่ หรือคุณต้องการนำเสนออะไรที่แปลกใหม่ ควรหาพาร์ทเนอร์ที่ดีและมีความสามารถในการตีโจทย์ความต้องการของคุณและ ลูกค้าเป็นอย่างดี เพื่อผลงานที่ดีเยี่ยมซึ่งไร้ปัญหาในระยะยาว